สร้างคนธรรมดาให้มีฤทธิ์ มีอานุภาพ
ให้สามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์
ฝากไว้ในโลกนี้ได้อย่างน่าอัศจรรย์"
คำกล่าวนี้ เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ เรื่องราวชีวประวัติของ
คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง
หรือคุณยายจันทร์ของเรานั่นเอง ท่านเกิดเมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2452 เมื่อ 105 ปีที่ผ่านมา ท่านเป็นลูกชาวนาที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ท่านเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ที่ไม่ได้เรียนหนังสือ จึงอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ แต่ท่านสามารถเป็นผู้นำในการสร้างความดี นำหมู่คณะบุกเบิกสร้างวัดพระธรรมกาย ทำให้วิชชาธรรมกายขยายไปทั่วโลก ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง คนธรรมดา ๆ อย่างเรา คงทำไม่สำเร็จอย่างแน่นอน แต่เพราะ
ให้สามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์
ฝากไว้ในโลกนี้ได้อย่างน่าอัศจรรย์"
คำกล่าวนี้ เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ เรื่องราวชีวประวัติของ
คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง
หรือคุณยายจันทร์ของเรานั่นเอง ท่านเกิดเมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2452 เมื่อ 105 ปีที่ผ่านมา ท่านเป็นลูกชาวนาที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ท่านเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ที่ไม่ได้เรียนหนังสือ จึงอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ แต่ท่านสามารถเป็นผู้นำในการสร้างความดี นำหมู่คณะบุกเบิกสร้างวัดพระธรรมกาย ทำให้วิชชาธรรมกายขยายไปทั่วโลก ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง คนธรรมดา ๆ อย่างเรา คงทำไม่สำเร็จอย่างแน่นอน แต่เพราะ
คุณยายอาจารย์ท่านมีคุณวิเศษ มีฤทธิ์
มีอานุภาพด้วยวิชชาธรรมกาย
ท่านจึงสามารถทำทุกอย่างให้สำเร็จได้อย่างยิ่งใหญ่
ที่แม้แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย ยังได้เคยกล่าวยกย่องไว้ว่า
“คุณยาย เป็นมนุษย์มหัศจรรย์ สำหรับหลวงพ่อ”
เกียรติประวัติคุณธรรมคุณงามความดี ตลอดจนคำสอนของคุณยายอาจารย์มีบันทึกไว้ให้
ศิษยานุศิษย์และสาธุชนทั้งหลายได้ศึกษาและนำมาประพฤติปฏิบัติตามเพื่อให้เกิดกุศลผลบุญแก่ชีวิตของตนยิ่งขึ้นไปนั้นมีมากมายเกินคำบรรยาย
แต่เพื่อให้ท่านที่พึ่งมารู้จักกับหมู่คณะเราและท่านที่ยังไม่รู้จักคุณยายลึกซึ้งนัก
ได้ทราบถึงคุณวิเศษที่ทำให้คุณยายเป็นมนุษย์มหัศจรรย์ไว้สัก
สองสามประการเท่าที่พื้นที่จะอำนวย
เพื่อให้เราทั้งหลายทราบไว้เป็นกำลังใจในการสร้างบารมีต่อไป
ตรวจความเรียบร้อยและชื่นชมวัดของท่าน |
จากประวัติของท่านก็คือ ท่านมีความกังวลอยู่ในใจตลอดเวลาหลังจากที่พ่อของท่านเสียชีวิตไปแล้วคือ กลัวว่าจะต้องหูหนวกไปอีก 500 ชาติตามที่ท่านคิดว่าพ่อได้แช่งไว้ เพราะท่านไม่ได้ขอขมาในตอนที่พ่อของท่านจะเสียชีวิต จนกระทั่งมีคำร่ำลือว่า หลวงปู่สดวัดปากน้ำ มีวิชาสอนให้คนสามารถไปเที่ยวนรก สวรรค์ได้ ท่านจึงตั้งใจจะไปเรียนวิชานี้ เพื่อจะได้ตามไปขอขมาพ่อซึ่งตายไปแล้วให้ได้ และเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ท่านตัดใจจากบ้านตอนอายุได้ 26 ปี ละทิ้งสมบัติพัสถานเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ยอมเป็นคนรับใช้ในบ้านของคหบดีที่เขาเป็นอุปัฏฐากวัดปากน้ำ เพื่อรอให้มีโอกาสที่จะได้เข้าไปเรียนวิชชาที่วัดปากน้ำ และในยุคนั้น หลวงปู่สดวัดปากน้ำ ได้ส่งคุณยายทองสุข สำแดงปั้น ครูสอนสมาธิ มาแนะนำธรรมปฏิบัติให้กับคหบดีท่านนี้ด้วย
โดยปกติแล้ว คนรับใช้ในบ้านสมัยนั้น จะไม่มีโอกาสได้ฝึกสมาธิร่วมกับเจ้านาย แต่ด้วยคุณยายอาจารย์มีคุณสมบัติอันเป็นคุณวิเศษประการที่สอง คือ เป็นคนรักความสะอาด มีความเป็น ระเบียบเรียบร้อย รับใช้เจ้านายด้วยความขยัน ซื่อสัตย์ จนเป็นที่รักและไว้วางใจ คุณยายจึงได้รับอนุญาตให้เรียนสมาธิกับคุณยายทองสุขได้ด้วย คุณยายอาจารย์ท่านได้ดูแลปรนนิบัติคุณยายทองสุข ที่เป็นครูสอนสมาธิเป็นอย่างดี จนได้รับความเมตตาถ่ายทอดวิชชาให้อย่างเต็มที่เช่นกัน คุณยายจันทร์ได้ใช้เวลาที่เป็นส่วนตัวหลังเสร็จภารกิจจากงานบ้านแล้วฝึกสมาธิอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาถึง 2 ปี จึงเข้าถึงพระธรรมกาย และได้ใช้วิชชาธรรมกายนี้ตามหาพ่อจนเจอ ได้ขอขมาและช่วยให้ท่านพ้นจากนรกขุม 5 เพียงเพราะดื่มเหล้าแค่วันละ10 สตางค์นั้น ให้มาเสวยสุขในทิพย์วิมานในสวรรค์ได้ เมื่อบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งใจได้แล้ว ท่านก็ไม่มีความจำเป็นต้องอดทนอยู่เป็นคนรับใช้อีกต่อไป เมื่อท่านอายุ 29 ปี คุณยายทองสุขได้พาท่านเข้าวัด และได้ชวนกันโกนหัวบวชชี เพื่อเรียนวิชชาธรรมกายขั้นสูงกับพระเดชพระคุณหลวงปู่
คุณสมบัติอันเป็นคุณวิเศษของคุณยายประการต่อมา คือ ท่านมีความขยันอดทนและมีความเพียรเป็นเลิศ
ทำให้ท่านเชี่ยวชาญในวิชชาธรรมกายในระดับที่หลวงปู่ เอ่ยปากชมไว้ว่า “ลูกจันทร์นี้ เป็นหนึ่งไม่มีสอง”
ได้ทำวิชชาอยู่กับหลวงปู่สดวัดปากน้ำมาโดยตลอดผ่านความอัตคัดอดอยากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และอยู่เรื่อยมาจวบจนหลวงปู่มรณภาพในปี 2502 ลูกศิษย์ท่านอื่น ๆ ได้แยกย้ายกันไป แต่ท่านยังคงอยู่สอนวิชชาธรรมกายที่บ้านธรรมประสิทธิ์ในวัดปากน้ำ เพื่อรอลูกศิษย์ผู้จะมาสืบทอดวิชชาธรรมกาย ตามคำสั่งของหลวงปู่ จนกระทั่งในปี 2506 มีนักเรียนหนุ่มจากโรงเรียนสวนกุหลาบได้มาตามหาคุณยายจันทร์ ด้วยแรงบันดาลใจที่อ่านจากหนังสือ ”วิปัสสนา บันเทิงสาร” มาพร้อมกับคำถามที่ค้างคาใจมานานว่า
“นรก สวรรค์ มีจริงไหม” และคุณยายก็มีคำตอบที่โดนใจว่า
“จริงคุณ ยายไปมาแล้ว ไปช่วยพ่อจากนรก คุณอยากไปไหมละ ยายจะพาไป”
นับจากนั้นมานักเรียนหนุ่มคนนั้นก็ฝากตัวเป็นศิษย์ได้รับการถ่ายทอดวิชชาธรรมกาย จนมีผลการปฏิบัติที่ยอดเยี่ยม แล้วยังได้ชักนำคนหนุ่มสาวมาเรียนสมาธิกับคุณยายอีกเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งในปี 2512 ลูกศิษย์คนแรกของคุณยายจันทร์เรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ท่านจึงจัดงานอุปสมบทให้ที่วัดปากน้ำ ซึ่งก็คือ พระเดชพระคุณพระเทพญาณมหามุนี หลวงพ่อธัมมชโย
ได้รับบริจาคทีดิน 196 ไร่ เพื่อสร้างวัดจากทุ่งนาฟ้าโล่ง |
เมื่อท่านมีพระ
มีหมู่คณะที่เพียบพร้อมด้วยศีล สมาธิ ปัญญา พร้อมสละชีวิตเป็นเดิมเพื่อสร้างบารมีได้แล้ว
ท่านได้ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างวัดให้เป็นวัด สร้างพระให้เป็นพระแท้
สร้างคนให้เป็นคนดีที่โลกต้องการ ขณะนั้นท่านอายุได้ 61 ปีแล้ว
มีเงินทุนเบื้องต้นเพียง 3.200 บาท ท่านยังมีความกล้าหาญ กล้าคิด กล้าตัดสินใจ
ริเริ่มจากการหาที่ดินในปี พ.ศ. 2513 นำหมู่คณะมาบุกเบิกสร้างวัดท่ามกลางปัญหาอุปสรรคนานัปการ
แต่ด้วยและด้วยคุณสมบัติอันเป็นคุณวิเศษของคุณยายอาจารย์ที่
ท่านมีความมุ่งมั่นต่อเป้าหมายที่ชัดเจนแน่วแน่ บวกกับความอดทน ขยันหมั่นเพียร รักความสะอาดเรียบร้อย มีความเคารพ อ่อนน้อม มีความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย เมื่อผนวกกับอานุภาพของวิชชาธรรมกาย ทำให้ท่านสามารถสถาปนาวัดพระธรรมกายและวางรากฐานในการพัฒนาวัดอย่างมีระบบระเบียบที่มั่นคง เป็นผู้สนับสนุนให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชัยโย เป็นผู้นำของหมู่คณะในการสร้างบารมี มีกิจกรรมในการศึกษาและประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างแพร่หลาย ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
ท่านมีความมุ่งมั่นต่อเป้าหมายที่ชัดเจนแน่วแน่ บวกกับความอดทน ขยันหมั่นเพียร รักความสะอาดเรียบร้อย มีความเคารพ อ่อนน้อม มีความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย เมื่อผนวกกับอานุภาพของวิชชาธรรมกาย ทำให้ท่านสามารถสถาปนาวัดพระธรรมกายและวางรากฐานในการพัฒนาวัดอย่างมีระบบระเบียบที่มั่นคง เป็นผู้สนับสนุนให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชัยโย เป็นผู้นำของหมู่คณะในการสร้างบารมี มีกิจกรรมในการศึกษาและประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างแพร่หลาย ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
อุโบสถวัดพระธรรมกาย |
เมื่อภารกิจท่านเสร็จสิ้นตามเป้าหมายแล้ว
ท่านได้ละสังขารไปเมื่อวันที่ 10กันยายน พ.ศ.2543 ในขณะที่ท่านอายุได้ 92 ปี ลูกหลานยายได้ร่วมใจกันสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศลให้คุณยายเป็นเวลา
500 วัน ในวันสลายร่างนั้น ได้มีมหาเถระ พระเถรานุเถระ พระสังฆาธิการ รวมนับแสนรูป
จาก 30.000 วัดทั่วโลกมาร่วมงาน ซึ่งไม่เคยมีบุญพิธีที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้มาก่อน
นอกจากนี้เหล่าศิษยานุศิษย์ยังได้ร่วมกันสร้างอนุสรณสถานเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของท่าน
ได้แก่ วิหารคุณยาย หอฉันคุณยาย และอาคาร 100 ปี คุณยาย
ซึ่งกำลังก่อสร้างเพื่อให้เป็นศูนย์กลางการเผยแพร่พระพุทธศาสนาและวิชชาธรรมกายไปทั่วโลก
วิหารคุณยาย ประดิษฐานรูปปั้นทองคำ เครื่องใช้และรัตนอัฐิธาตุ |
หอฉันคุณยาย |
อาคาร 100 ปี คุณยาย อาคารสำนักงานใหญ่ ศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและวิชชาธรรมกายไปทั่วโลก |
วิชชาธรรมกาย
เปลี่ยนหญิงสาวชาวชนบทธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ที่ไม่ได้เรียนหนังสือ อ่านไม่ออก
เขียนไม่ได้ ให้กลายมาเป็นผู้นำในการสร้างความดี มีชนทุกชั้นก้มกราบในคุณธรรมอันสูงส่ง
คุณยายเป็นมนุษย์มหัศจรรย์สำหรับหลวงพ่อ
ไม่มีคุณยาย ก็ไม่มีหลวงพ่อ ไม่มีวัดพระธรรมกาย
คุณยายอาจารย์ มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง
บัดนี้โลกได้จารึกไว้แล้วว่า ท่านคือผู้สถาปนาวัดพระธรรมกาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น