วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

วิธีเก็บสมบัติให้ลูกที่ได้ผลที่สุด

Otto ยังมีชื่อที่เพื่อนๆ ของยายเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เด็กชาย"ตักบาตร" เพราะเกิดตอนยายเตรียมงานตักบาตรพระ 11,111รูป ครั้งแรกที่โคราช พออายุได้ 20 วัน ก็ไปร่วมตักบาตรที่โคราชด้วย และมีตักบาตรที่ไหน เด็กชายOtto ก็จะได้ไปตักบาตรที่นั่น ไม่เคยพลาด และนี่คือตักบาตรที่ตลาดรังสิตช่วงปีใหม่ 2554

                       สมบัติในสากลโลกนี้ หากจะแยกเป็นโลกียสมบัติและอริยะสมบัติแล้ว ชาวโลกส่วนใหญ่ก็จะคุ้นเคยกับโลกียสมบัติมากกว่า และเมื่อเกิดมาก็ดำรงชีวิตเพื่อแสวงหาสมบัติอันเป็นโลกียทรัพย์ อันได้แก่ ข้าว ของเงินทอง เพชรนิลจินดา ลาภยศ สรรเสริญ เหล่านี้ไปจนตลอดชีวิต บางคนลืมสร้างสมอริยทรัพย์ให้กับตนเองและครอบครัว อาจเพราะไม่รู้ความจริงของชีวิตว่าชีวิตในภพชาติหน้าเราจำเป็นต้องใช้ทรัพย์เช่นกัน แต่ทรัพย์ที่จะสามารถใช้ได้นั้นจะไม่ใช่ทรัพย์ที่ทำมาหาได้ในชาตินี้ หากแต่เป็นอริยทรัพย์อันเกิดขึ้นจากการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา ทรัพย์นี้จะติดตัวเราไปข้ามภพข้ามชาติ ไม่มีเหตุเภทภัยใดมาทำลายทรัพย์ของเราได้ เราจะได้ใช้อริยทรัพย์เหล่านี้ไปตลอดเส้นทางของการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร
                        หน้าที่ของพ่อแม่ที่ต้องปฏิบัติต่อลูกที่ปรากฏในสิงคาลกสูตรข้อหนึ่งก็คือ มอบสมบัติให้ลูกเมื่อถึงวัยอันควร พ่อแม่ส่วนใหญ่ก็จะนึกได้เพียงว่าจะต้องมีทรัพย์มรดกไว้ให้ลูกหลาน จนบางครั้งเราก็จะพบเจออยู่บ้างว่า ลูกหลานเมื่อได้รับมรดกแล้วก็ไม่สามารถใช้มรดกนั้นให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองขึ้นไปได้ บางครั้งถึงกับต้องตกระกำลำบากก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไป แสดงว่าทรัพย์สมบัติอันเป็นโลกียทรัพย์นั้นไม่สามารถช่วยคนให้พ้นทุกข์ได้จริง ดังนั้นหากเราที่เป็นพ่อแม่จะหาอริยทรัพย์มอบเป็นมรดกไว้ให้กับลูกหลานเพื่อประกันความปลอดภัยในวัฏสงสารให้กับลูกหลานของเรานั้น อย่างใหนจะทำได้อย่างดีที่สุด
                          การมอบอริยทรัพย์สมบัติให้ลูก ตัวอย่างมีให้เราได้ศึกษาและปฏิบัติำตาม ก็คือพระส้มมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นบรมครูของเรา ท่านประพฤติเป็นแบบอย่างให้เราได้น้อมนำมาตรองตามก็คือ เมื่อครั้งพระองค์ท่านเสด็จกลับมากรุงกบิลพัตรเพื่อโปรดพระพุทธบิดาและพระญาติ ในครั้งนั้น พระนางพิมพาได้โปรดให้พระราหุลตามไปขอราชสมบัติจากพระองค์     พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านคิดว่า เราจักมอบอริยทรัพย์ให้กับพระราหุลจึงจะดี ท่านจึงโปรดให้พระสารีบุตรบรรพชาให้กับพระราหุลเป็นสามเณรราหุล สุดท้ายท่านได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์หลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงเข้าสู่แดนบรมสุขคือนิพพานได้สำเร็จ
                          สำหรับเราที่จะมอบอริยทรัพย์ให้ลูกนั้น ก็ต้องสอนให้ลูกได้รู้ความจริงของชีวิต ปลูกสัมมาทิษฐิให้ลูกรักบุญ กลัวบาป สิ่งเหล่านี้เพียงการบอกเล่าให้ฟังลูกจะยังไม่เข้าใจลึกซึ้งจนนำไปปฏิบัติได้ พ่อแม่ต้องทำให้ดู ต้องพาเขาทำบ่อยๆ จนติดเป็นนิสัย  ดังเช่นเรื่องการทำทานเราก็ต้องพาเขาทำ พาไปวัด ไปตักบาตร ปลูกฝังกันตั้งแต่เล็กๆยังไม่รู้เดียงสากันนั่นเลย เรื่องการรักษาศีล พ่อแม่ต้องรักษาศีลเป็นปกติก่อน เราจึงจะสอนลูกได้ ลูกเขาจะซึมซับโดยตรงว่าสิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร สิ่งใดทำได้ สิ่งใดทำไม่ได้ และยิ่งเราพาเขานั่งสมาธิปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงธรรมกาย ก็เป็นอันช่วยปิดนรกให้ลูกได้ไปหลายภพหลายชาติทีเดียว
                             และตอนนี้ที่อยู่รับบุญที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมโอมานได้เห็นชัดเจนถึงวิธีที่ได้ผลดีที่สุดที่จะได้มอบสมบัติที่สำคัญให้กับชีวิตลูก คือ เมื่อพ่อบวชเป็นพระ นอกจากอานิสงส์การบวชมากมายเกินคำบรรยายแล้ว ยังเป็นการเก็บสมบัติให้ลูกด้วย นั่นคือ ลูกจะหาเวลามากราบพระพ่อ จึงเป็นโอกาสให้ลูกได้เข้าวัด ได้ฟังธรรม ได้อาราทนาศีลได้ถวายสังฆทาน ได้นั่งสมาธิ สิ่งเหล่านี้ลูกจะมีโอกาสทำมากขึ้นเมื่อพ่อบวชเป็นพระเป็นเนื้อนาบุญให้ลูก
                               แม้เราเองจะเป็นผู้หญิง บวชเป็นพระไม่ได้ แต่การที่ได้มาอยู่รับบุญที่นี่ก็ยังส่งผลให้ลูก ๆพยายามหาโอกาสมาทำบุญ ลูกได้โอกาสรับบุญพิเศษๆ ที่คนอื่นไม่ค่อยได้ทำ คืองานรับใช้งานพระศาสนา
                             ดังนั้นการที่พ่อแม่ได้อยู่สร้างบารมีที่ศูนย์ปฏบัติธรรมโอมานนี้ จึงเป็นการตามเก็บสมบัติอันเป็นอริยทรัพย์ให้ลูกได้ดีที่สุดสำหรับครอบครัวเรา พ่อแม่ท่านอื่น ครอบครัวอื่นจะลองหาโอกาสทำตามบ้างก็ได้นะ
เมื่อมีวันหยุดลูกมารักษาศีล ปฎิบัติธรรมกับพระพ่อ

ลูกได้พระพ่อเป็นเนื้อนาบุญ

ลูกทำหน้าที่กัลยาณมิตรชวนเพื่อน ๆ เข้าวัด ปฏิบัติธรรม

ได้ปฏิบัติธรรมกันพร้อมหน้าลูกหลาน


ได้เป็นต้นบุญต้นแบบในงานทอดกฐินช่วยแม่ที่ศูนย์

น้องเล็กสร้างองค์พระฉลองชัยปิดเจดีย์

ลูก ๆ สร้างองค์พระจารึกชื่อพ่อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น