วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ความดีสากล (Universal Goodness)


ตอนที่ 1 ฝึกตนเองก่อน


            ท่านเคยมีความคิดอย่างนี้บ้างไหม ว่า ตัวของเรามีทั้งความรู้ความสามารถ และขยันขันแข็ง แต่ทำไมเราต้องเป็นอย่างนี้
-                    - ทำธุรกิจการงานใดก็ล้มลุกคลุกคลาน ไม่ประสบความสำเร็จ
-                    - เงินขาดมือ มีหนี้สิน มีเรื่องให้เสียเงินโดยใช่เหตุบ่อย
                 - ครอบครัวไม่เป็นสุข                                       
                 -  ลูก ๆ ไม่อยู่ในโอวาท เกเร สร้างความเดือดร้อนมาให้ครอบครัวอยู่เป็นประจำ

             ปัญหาเหล่านี้ บางท่านอาจจะโทษโน่น นี่ นั่น โทษเวร โทษกรรม โทษชะตาฟ้าลิขิต ความจริง

แล้วเราโทษใครไม่ได้เลย เพราะ สาเหตุของเรื่องนี้ พระเดชพระคุณพระราชภาวนาจารย์  หลวงพ่อทัตตะชีโว      รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ท่านได้นำความรู้จากพระไตรปิฎก มาสอนเราว่าปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ ล้วนเกิดมาจาก “นิสัย” ของตัวเรานั่นเอง

               “นิสัย” จะเป็นตัวกำหนดความสำเร็จให้กับชีวิตเราทุกอย่าง

คนที่ประสบความสำเร็จ เขาจะมี”นิสัย”ที่เป็นความดีสากลอยู่ด้วยกัน  5 ประการ คือ

                                                                        1.รักความสะอาด
                                                                        2.รักความเป็นระเบียบ
                                                                        3.มีความสุภาพเรียบร้อย เคารพอ่อนน้อม
                                                                        4.ตรงต่อเวลา
                                                                        5.มีสมาธิ    

พระเดชพระคุณหลวงพ่อเมตตานำคำสอนที่ได้จากพระไตรปิฎก มาสรุปรวมเป็นคำสอนให้เราเข้าใจง่ายและสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ และหากเราปฏิบัติตามจนติดเป็นนิสัยแล้ว เราจะทำอะไรก็จะประสบความสำเร็จ ครอบครัวลูกหลานก็จะอยู่เย็นเป็นสุข
                              ความดีสากล 5 ประการ  (Universal Goodness) ซึ่งได้แก่ ความสะอาด เป็นระเบียบ ความสุภาพอ่อนน้อม ตรงต่อเวลาและสมาธินี้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านยืนยันว่าจะส่งผลเกี่ยวเนื่องกัน ยกตัวอย่างดังนี้คือ
ใครที่ฝึกนิสัยรักความสะอาด เขาก็จะเป็นคนมีระเบียบ และความสุภาพเรียบร้อยก็จะตามมา คนที่มีระเบียบก็จะเป็นคนตรงต่อเวลา ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง คนที่ทำงานตรงเวลาก็จะเป็นคนที่ทำงานอย่างมีสติ มีสมาธิในการทำกิจการงานต่าง ซึ่งก็จะทำให้คนนั้นประสบความสำเร็จในทุก ๆ ด้าน
ในทางตรงกันข้าม
                                      คนที่ไม่รักษาความสะอาด ปล่อยตัวเองให้สกปรก บ้านช่องก็จะรกรุงรังด้วย เมื่อความเป็นระเบียบไม่มี ก็มักจะทำอะไรได้ไม่เรียบร้อย พูดจาโกหกหยาบคาย ขาดความเคารพผู้อื่น กล้าทำในสิ่งที่ผิดศีลผิดธรรม สิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้กลายเป็นคนไม่ตรงต่อเวลา ทำสิ่งใดก็มักมีข้ออ้างผัดวันประกันพรุ่ง ไม่มีสมาธิในการทำงาน คนเช่นนี้ทำกิจการงานใดย่อมสำเร็จได้ยาก แม้จะเกิดมาร่ำรวยก็อาจลำบากยากจนในภายหลังได้
                                       ท่านลองนึกทบทวนดูก็ได้ว่า ญาติพี่น้อง หรือ คนที่ท่านรู้จัก ระหว่างผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตครอบครัวและธุรกิจการงาน กับผู้ที่ทำอะไรก็ล้มเหลว  จะพบว่า นิสัยที่เป็นความดีสากลของพวกเขาเหล่านั้นจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ไม่เชื่อท่านก็ลองสังเกตดู
        หากเราเป็นคนที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างยั่งยืน สิ่งที่เราจะต้องทำก็คือ ต้องฝึกนิสัยของเราให้เป็นความดีสากลครบทั้ง 5 ประการก่อน


มีผลงานวิจัยที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า
                       “คนเราหากทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งติดต่อกันเป็นเวลา 21 วัน สิ่งนั้นจะกลายเป็นนิสัย”
เช่น เราอยากตื่นเช้าตอนตี 5 ให้เป็นนิสัย เราก็ต้องตื่นตี 5 ทุกวัน ติดต่อกัน 21 วัน เราก็จะมีนิสัยตื่นตี 5 เป็นปกติได้เป็นต้น

                           ดังนั้น ถ้าเราต้องการสร้างนิสัยที่ดีให้กับตัวเรา เราก็ต้องฝึกทำสิ่งที่ดี ๆ นั้น ซ้ำ ๆ ติดต่อกัน 21 วัน  เราเริ่มทันทีวันนี้เลยดีไหม

นิสัยดี 5 ประการ

1.           ความสะอาด
2.           เป็นระเบียบ
3.           ความสุภาพ
4.           ตรงต่อเวลา
5.           สมาธิ
                          เชื่อว่าท่านจะต้องมีนิสัยที่ดีเหล่านี้อยู่บ้างแล้วไม่มากก็น้อย แต่เราจะเริ่มฝึกให้เป็นนิสัยที่ดีแบบเข้มข้นขึ้น เช่น
1.            ดูแลรักษาความสะอาด สุขอนามัยของตนเอง
2.           ฝึกระเบียบโดยตื่นนอนแล้วเก็บที่นอนพับผ้าห่มทันที เราจะได้นิสัยสะอาดและเป็น       ระเบียบ
3.           เลิกพูดคำหยาบ สบถ สำรวมในคำพูด เราจะได้นิสัยสุภาพ
4.           ตรงต่อเวลา เช่น ตื่นตรงเวลา ทำกิจกรรมตามเวลาที่กำหนด นัดหมายตรงเวลา เราจะได้นิสัยซื่อตรง
5.           นั่งสมาธิทุกวัน
                                   ฝึกหัดขัดเกลาตัวเราเองทุกวันติดต่อกัน 21 วัน จะกลายเป็นนิสัยที่ติดตัวเราไปทุกภพทุกชาติ นิสัยที่เป็นความสากล 5 ประการนี้ จะส่งเสริมให้เราประสบความสำเร็จในทุกด้าน ทั้งธุรกิจหน้าที่การงาน และครอบครัวอบอุ่น ลูกหลานก็จะมีความสุข
ฝึกนิสัยตัวเราก่อน
ฝึกทันที ฝึกทุกที่ ฝึกทุกเวลา ฝึกอย่างมีความสุข
เราจะฝึกไปด้วยกัน สำเร็จไปด้วยกันนะครับ





วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2557

คุณยายอาจารย์ มหาอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง


                         "วิชชาธรรมกาย
      สร้างคนธรรมดาให้มีฤทธิ์ มีอานุภาพ
         ให้สามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์
      ฝากไว้ในโลกนี้ได้อย่างน่าอัศจรรย์" 

คำกล่าวนี้ เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ เรื่องราวชีวประวัติของ
 คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง 
หรือคุณยายจันทร์ของเรานั่นเอง ท่านเกิดเมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2452 เมื่อ 105 ปีที่ผ่านมา ท่านเป็นลูกชาวนาที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ท่านเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ที่ไม่ได้เรียนหนังสือ จึงอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ แต่ท่านสามารถเป็นผู้นำในการสร้างความดี นำหมู่คณะบุกเบิกสร้างวัดพระธรรมกาย ทำให้วิชชาธรรมกายขยายไปทั่วโลก ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง คนธรรมดา ๆ อย่างเรา คงทำไม่สำเร็จอย่างแน่นอน แต่เพราะ
คุณยายอาจารย์ท่านมีคุณวิเศษ มีฤทธิ์ มีอานุภาพด้วยวิชชาธรรมกาย 
                  ท่านจึงสามารถทำทุกอย่างให้สำเร็จได้อย่างยิ่งใหญ่ ที่แม้แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย ยังได้เคยกล่าวยกย่องไว้ว่า  
“คุณยาย เป็นมนุษย์มหัศจรรย์ สำหรับหลวงพ่อ”
                        เกียรติประวัติคุณธรรมคุณงามความดี ตลอดจนคำสอนของคุณยายอาจารย์มีบันทึกไว้ให้ ศิษยานุศิษย์และสาธุชนทั้งหลายได้ศึกษาและนำมาประพฤติปฏิบัติตามเพื่อให้เกิดกุศลผลบุญแก่ชีวิตของตนยิ่งขึ้นไปนั้นมีมากมายเกินคำบรรยาย แต่เพื่อให้ท่านที่พึ่งมารู้จักกับหมู่คณะเราและท่านที่ยังไม่รู้จักคุณยายลึกซึ้งนัก ได้ทราบถึงคุณวิเศษที่ทำให้คุณยายเป็นมนุษย์มหัศจรรย์ไว้สัก สองสามประการเท่าที่พื้นที่จะอำนวย เพื่อให้เราทั้งหลายทราบไว้เป็นกำลังใจในการสร้างบารมีต่อไป
ตรวจความเรียบร้อยและชื่นชมวัดของท่าน
  คุณสมบัติอันเป็นคุณวิเศษของท่านประการแรกนั้น คือ ท่านมีความมุ่งมั่นต่อเป้าหมายอย่างแน่วแน่   
จากประวัติของท่านก็คือ ท่านมีความกังวลอยู่ในใจตลอดเวลาหลังจากที่พ่อของท่านเสียชีวิตไปแล้วคือ  กลัวว่าจะต้องหูหนวกไปอีก 500 ชาติตามที่ท่านคิดว่าพ่อได้แช่งไว้ เพราะท่านไม่ได้ขอขมาในตอนที่พ่อของท่านจะเสียชีวิต จนกระทั่งมีคำร่ำลือว่า หลวงปู่สดวัดปากน้ำ มีวิชาสอนให้คนสามารถไปเที่ยวนรก สวรรค์ได้ ท่านจึงตั้งใจจะไปเรียนวิชานี้ เพื่อจะได้ตามไปขอขมาพ่อซึ่งตายไปแล้วให้ได้ และเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ท่านตัดใจจากบ้านตอนอายุได้ 26 ปี ละทิ้งสมบัติพัสถานเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ยอมเป็นคนรับใช้ในบ้านของคหบดีที่เขาเป็นอุปัฏฐากวัดปากน้ำ เพื่อรอให้มีโอกาสที่จะได้เข้าไปเรียนวิชชาที่วัดปากน้ำ และในยุคนั้น หลวงปู่สดวัดปากน้ำ ได้ส่งคุณยายทองสุข สำแดงปั้น ครูสอนสมาธิ มาแนะนำธรรมปฏิบัติให้กับคหบดีท่านนี้ด้วย
                                โดยปกติแล้ว คนรับใช้ในบ้านสมัยนั้น จะไม่มีโอกาสได้ฝึกสมาธิร่วมกับเจ้านาย    แต่ด้วยคุณยายอาจารย์มีคุณสมบัติอันเป็นคุณวิเศษประการที่สอง คือ เป็นคนรักความสะอาด มีความเป็น  ระเบียบเรียบร้อย รับใช้เจ้านายด้วยความขยัน ซื่อสัตย์     จนเป็นที่รักและไว้วางใจ คุณยายจึงได้รับอนุญาตให้เรียนสมาธิกับคุณยายทองสุขได้ด้วย คุณยายอาจารย์ท่านได้ดูแลปรนนิบัติคุณยายทองสุข ที่เป็นครูสอนสมาธิเป็นอย่างดี จนได้รับความเมตตาถ่ายทอดวิชชาให้อย่างเต็มที่เช่นกัน  คุณยายจันทร์ได้ใช้เวลาที่เป็นส่วนตัวหลังเสร็จภารกิจจากงานบ้านแล้วฝึกสมาธิอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาถึง 2 ปี จึงเข้าถึงพระธรรมกาย และได้ใช้วิชชาธรรมกายนี้ตามหาพ่อจนเจอ ได้ขอขมาและช่วยให้ท่านพ้นจากนรกขุม 5 เพียงเพราะดื่มเหล้าแค่วันละ10 สตางค์นั้น ให้มาเสวยสุขในทิพย์วิมานในสวรรค์ได้      เมื่อบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งใจได้แล้ว ท่านก็ไม่มีความจำเป็นต้องอดทนอยู่เป็นคนรับใช้อีกต่อไป เมื่อท่านอายุ 29 ปี คุณยายทองสุขได้พาท่านเข้าวัด และได้ชวนกันโกนหัวบวชชี เพื่อเรียนวิชชาธรรมกายขั้นสูงกับพระเดชพระคุณหลวงปู่  

คุณสมบัติอันเป็นคุณวิเศษของคุณยายประการต่อมา คือ ท่านมีความขยันอดทนและมีความเพียรเป็นเลิศ

ทำให้ท่านเชี่ยวชาญในวิชชาธรรมกายในระดับที่หลวงปู่ เอ่ยปากชมไว้ว่า “ลูกจันทร์นี้ เป็นหนึ่งไม่มีสอง”  
 ได้ทำวิชชาอยู่กับหลวงปู่สดวัดปากน้ำมาโดยตลอดผ่านความอัตคัดอดอยากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และอยู่เรื่อยมาจวบจนหลวงปู่มรณภาพในปี 2502 ลูกศิษย์ท่านอื่น ๆ ได้แยกย้ายกันไป แต่ท่านยังคงอยู่สอนวิชชาธรรมกายที่บ้านธรรมประสิทธิ์ในวัดปากน้ำ เพื่อรอลูกศิษย์ผู้จะมาสืบทอดวิชชาธรรมกาย ตามคำสั่งของหลวงปู่ จนกระทั่งในปี 2506 มีนักเรียนหนุ่มจากโรงเรียนสวนกุหลาบได้มาตามหาคุณยายจันทร์    ด้วยแรงบันดาลใจที่อ่านจากหนังสือ  ”วิปัสสนา บันเทิงสาร” มาพร้อมกับคำถามที่ค้างคาใจมานานว่า
นรก สวรรค์ มีจริงไหม”         และคุณยายก็มีคำตอบที่โดนใจว่า
“จริงคุณ ยายไปมาแล้ว ไปช่วยพ่อจากนรก คุณอยากไปไหมละ ยายจะพาไป” 
                          นับจากนั้นมานักเรียนหนุ่มคนนั้นก็ฝากตัวเป็นศิษย์ได้รับการถ่ายทอดวิชชาธรรมกาย จนมีผลการปฏิบัติที่ยอดเยี่ยม แล้วยังได้ชักนำคนหนุ่มสาวมาเรียนสมาธิกับคุณยายอีกเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งในปี 2512 ลูกศิษย์คนแรกของคุณยายจันทร์เรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ท่านจึงจัดงานอุปสมบทให้ที่วัดปากน้ำ ซึ่งก็คือ   พระเดชพระคุณพระเทพญาณมหามุนี หลวงพ่อธัมมชโย                                                                   
ได้รับบริจาคทีดิน 196 ไร่ เพื่อสร้างวัดจากทุ่งนาฟ้าโล่ง
                   เมื่อท่านมีพระ มีหมู่คณะที่เพียบพร้อมด้วยศีล สมาธิ ปัญญา พร้อมสละชีวิตเป็นเดิมเพื่อสร้างบารมีได้แล้ว ท่านได้ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างวัดให้เป็นวัด สร้างพระให้เป็นพระแท้ สร้างคนให้เป็นคนดีที่โลกต้องการ ขณะนั้นท่านอายุได้ 61 ปีแล้ว มีเงินทุนเบื้องต้นเพียง 3.200 บาท ท่านยังมีความกล้าหาญ กล้าคิด กล้าตัดสินใจ ริเริ่มจากการหาที่ดินในปี พ.ศ. 2513  นำหมู่คณะมาบุกเบิกสร้างวัดท่ามกลางปัญหาอุปสรรคนานัปการ แต่ด้วยและด้วยคุณสมบัติอันเป็นคุณวิเศษของคุณยายอาจารย์ที่

ท่านมีความมุ่งมั่นต่อเป้าหมายที่ชัดเจนแน่วแน่ บวกกับความอดทน ขยันหมั่นเพียร รักความสะอาดเรียบร้อย มีความเคารพ อ่อนน้อม มีความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย เมื่อผนวกกับอานุภาพของวิชชาธรรมกาย      ทำให้ท่านสามารถสถาปนาวัดพระธรรมกายและวางรากฐานในการพัฒนาวัดอย่างมีระบบระเบียบที่มั่นคง เป็นผู้สนับสนุนให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชัยโย เป็นผู้นำของหมู่คณะในการสร้างบารมี มีกิจกรรมในการศึกษาและประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างแพร่หลาย ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
อุโบสถวัดพระธรรมกาย
                   เมื่อภารกิจท่านเสร็จสิ้นตามเป้าหมายแล้ว ท่านได้ละสังขารไปเมื่อวันที่ 10กันยายน พ.ศ.2543 ในขณะที่ท่านอายุได้ 92 ปี ลูกหลานยายได้ร่วมใจกันสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศลให้คุณยายเป็นเวลา 500 วัน ในวันสลายร่างนั้น ได้มีมหาเถระ พระเถรานุเถระ พระสังฆาธิการ รวมนับแสนรูป จาก 30.000 วัดทั่วโลกมาร่วมงาน ซึ่งไม่เคยมีบุญพิธีที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้มาก่อน
 นอกจากนี้เหล่าศิษยานุศิษย์ยังได้ร่วมกันสร้างอนุสรณสถานเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของท่าน ได้แก่ วิหารคุณยาย  หอฉันคุณยาย และอาคาร 100 ปี คุณยาย ซึ่งกำลังก่อสร้างเพื่อให้เป็นศูนย์กลางการเผยแพร่พระพุทธศาสนาและวิชชาธรรมกายไปทั่วโลก
วิหารคุณยาย ประดิษฐานรูปปั้นทองคำ เครื่องใช้และรัตนอัฐิธาตุ
หอฉันคุณยาย 
อาคาร 100 ปี คุณยาย อาคารสำนักงานใหญ่ ศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและวิชชาธรรมกายไปทั่วโลก
                 วิชชาธรรมกาย เปลี่ยนหญิงสาวชาวชนบทธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ที่ไม่ได้เรียนหนังสือ อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ให้กลายมาเป็นผู้นำในการสร้างความดี มีชนทุกชั้นก้มกราบในคุณธรรมอันสูงส่ง 
 คุณยายเป็นมนุษย์มหัศจรรย์สำหรับหลวงพ่อ
ไม่มีคุณยาย ก็ไม่มีหลวงพ่อ ไม่มีวัดพระธรรมกาย
 คุณยายอาจารย์ มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง 
บัดนี้โลกได้จารึกไว้แล้วว่า ท่านคือผู้สถาปนาวัดพระธรรมกาย