น้ำท่วมปี 2554 นี้ ประวัติศาสตร์ต้องบันทึกไว้ว่าเป็นน้ำท่วมครั้งที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศไทย เพราะครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 25 จังหวัด ระยะเวลายาวนานกว่า 3 เดือน ส่งผลเสียหาย ทำลายเศรษฐกิจย่อยยับทุกจุดที่น้ำไหลผ่าน เปรียบเหมือนข้าศึกกรีฑาทัพโจมตีถึงไหนก็แหลกราญย่อยยับไปถึงนั่น
 |
| กองทัพธรรม ตรวจการเสริมคูค่าย คลองระพีพัฒน์ก่อนการโจมตีของข้าศึก |
และในเดือนตุลาคม 2554 กองทัพน้ำมหาศาลก็บุกเข้าประชิดกรุงเทพมหานคร ทางทิศตะวันออกนั้นมีจังหวัดปทุมธานีเป็นปราการด่านสุดท้ายสะกัดกั้นอยู่ที่ค่ายคลองระพีพัฒน์หากค่ายนี้แตก ข้าศึกจะสามารถทะลวงเข้าโจมตีรังสิต สายไหม ดอนเมือง และสามารถเขายึดเมืองหลวงชั้นในได้สำเร็จ
ทหารที่ค่ายคลองระพีพัฒน์เป็นทหารอาสาสมัครไม่มีวันปลดประจำการของกองทัพธรรมวัดพระธรรมร่วมกับอาสาสมัครประชาชนคนคลองหลวง ต่อสู้กับกองทัพน้ำแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ชาวบ้านบางระจันที่พลีชีพต่อสู้ทัพพม่าไว้ไม่ให้เข้ากรุงศรีอยุธยาได้ฉันใดการทุ่มเทสู้อุทกภัยครั้งนี้ก็ฉันนั้น
 |
| พระอาจารย์ชาญณรงค์ได้โอกาสรับบุญครั้งประวัติศาสตร์ครั้งนี้ด้วย ภายหลังหลวงพ่อทัตตะสังให้ไปรับบุญที่กองอำนวยการเพราะเหมาะสมกับวัยวุฒิ คุณวุฒิและปัญญาบารมีมากกว่ารับบุญกรอกทราย |
 |
| เหล่านักรบกองทัพธรรม เฝ้าระวังข้าศึกตลอดทั้งวันทั้งคืน |
ขณะนี้เรารับหน้าที่เฝ้าฐานทัพกลางทะเลทรายประเทศโอมาน รับฟังข่าวข้าศึกทาง DMCช่องนี้ช่องเดียว ไม่มีโอกาสเข้ารบเคียงบ่าเคียงไหล่กับเหล่าขุนพลกล้าลูกพระธัมม์ การรบทุกครั้งที่ผ่านมา ไม่ว่าครั้งไหนๆ เราจะต้องเป็นหน่วยทะลวงฟันนำหน้ากล้าตายทุกครั้ง ครั้งนี้ได้เพียงแต่ฟังแม่ทัพครูไม่ใหญ่ส่งสัญญานเรียกทหารเข้าประจำการรบ มันฮึกเหิมอยากเข้าร่วมรบครั้งนี้ด้วยใจจะขาด เปรียบไปเราก็เหมือนม้าศึกที่ได้ยินเสียงกลองรบใจคึกคะนองอยากจะเผ่นโผนออกรบแต่ถูกกักขังโดนล่ามไว้ออกไปไม่ได้ จึงไม่มีโอกาสได้เป็นทหารผ่านศึกครั้งประวัติศาสตรครั้งนี้ หากเรายังอยู่เมืองไทย ตำแหน่งประจำในกองทัพ คือ พลขับ"บักอาโหล"ขนอาวุธยุทโธปกรณ์ ขนกำลังพล ขนเสบียง ตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าจะได้ชัยชนะจึงจะเลิกลา
ศึกครั้งนี้จึงได้เพียงแต่ส่งกำลังใจและขออนุโมทนาบุญกับขุนพลกล้าแห่งกองทัพธรรม พลัง 2 มื้อทุกท่าน ขอมีส่วนในบุญครั้งประวัติศาสตร์ของชาวธรรมกายครั้งนี้ด้วยเถิด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น